เมนู

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ
3. ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ปรามาส-
ธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ ที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของ
วิปปยุตตปัจจัย.
4. ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ปรามาส-
ธรรม และธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ปรามาสธรรม และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
5. ปรามาสธรรม และธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตต-
ปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ

21. อัตถิปัจจัย


[687] 1. ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาส-
ธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ปรามาสธรรม ที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย.
2. ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 5 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และ อินทริยะ ฯลฯ
3. ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ปรามาส-
ธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ปรามาสธรรม ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่งซึ่งจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ เพราะ
ปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ทิฏฐิ ย่อมเกิดขึ้น.
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

4. ธรรมที่ไม่ใช่ปราสธรรม เป็นปัจจัยแก่ปรามาส-
ธรรม และธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ ที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ปรามาสธรรม
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ฯลฯ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่งซึ่งจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ เพราะ
ปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ปรามาสธรรม และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้น.
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ปรามาสธรรม และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
5. ปรามาสธรรม และธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 5 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และ อินทริยะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ 1 ที่ไม่ใช่ปรามาสธรรม และปรามาสธรรม เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ
ขันธ์ 2 ฯลฯ
ปรามาสธรรม และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
รูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ปรามาสธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ปรามาสธรรม และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่
ปรามาสธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ปรามาสธรรม ที่เกิดภายหลัง และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เป็นปัจจัย
แก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ปรามาสธรรม ที่เกิดภายหลัง, สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และ
กวฬีการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ปรามาสธรรม ที่เกิดภายหลัง และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และรูป-
ชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

การนับจำนวนวาระในอนุโลม


[688] ในเหตุปัจจัย มี 3 วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี 9 วาระ
ในอธิปติปัจจัย มี 9 วาระ ในอนันตรปัจจัย มี 9 วาระ ในสมนันตรปัจจัย
มี 9 วาระ ในสหชาตปัจจัย มี 5 วาระ ในอัญญมัญญปัจจัย มี 5 วาระ ใน
นิสสยปัจจัย มี 5 วาระ ในอุปนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ ในปุเรชาตปัจจัย
มี 3 วาระ ในปัจฉาชาตปัจจัย มี 3 วาระ ในอาเสวนปัจจัย มี 9 วาระ ใน